5 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องซักผ้าใหม่
1.ประเภทเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าแบบฝาบนสองถัง (ถังคู่)
เครื่องซักผ้าประเภทนี้เป็นเครื่องซักผ้าสองถัง โดยแบ่งออกเป็นถังซักกับถังปั่น เครื่องซักผ้าประเภทนี่มีขนาดใหญ่เนื่องจากบรรจุถังไว้สองถัง แต่ทั้งนี้ข้อดีสำหรับเครื่องซักผ้าแบบถังคู่ คือความสะอาด ที่สามารถแยกถังซักกับถังปั่น ซึ่งการแยกออกเป็นสองถังสิ่งสกปรกที่ตกค้างภายในถังซักจะไม่ติดเสื้อผ้าขณะปั่น
เครื่องซักผ้าสองถังกึ่งอัตโนมัติ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการซัก เนื่องจากต้องย้ายเสื้อผ้าระหว่างถังซักกับถังปั่น ทำให้ใช้เวลามาก นอกจากเวลาแล้วยังต้องมีพื้นที่ในการวางเครื่องซักผ้าด้วย เพราะเครื่องซักผ้าสองถังมีขนาดที่กว้างมากกว่าเครื่องซักผ้าประเภทอื่น
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
เครื่องซักผ้าประเภทสุดท้ายคือเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า โดยลักษณะของเครื่องซักผ้าประเภทนี้เปิดฝาด้านหน้า มีจุดเด่นอยู่ที่ความสะอาด ด้วยระบบตั้งอุณหภูมิน้ำ ส่งผลให้ละลายซักฟอกได้ ทำให้เสื้อผ้าสะอาดมากขึ้น แต่ข้อควรระวังคือ การตรวจสอบอุณหภูมิที่ใช้กับผ้า เพราะผ้าบางชนิดหากซักในอุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้สีซีดได้
สำหรับเครื่องซักผ้าประเภทฝาหน้าเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการซัก โดยค่าเฉลี่ยเวลาของการซักอยู่ที่ประมาณ 120 นาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของความจุของถังซัก แต่ทั้งนี้ระยะเวลาที่เสียไปแลกมาด้วยความสะอาดของเสื้อผ้าที่สะอาดมากยิ่งขึ้น
เครื่องซักผ้าแบบฝาบนถังเดียว
สำหรับเครื่องซักผ้าแบบถังเดียว ลักษณะของเครื่องซักผ้าประเภทนี้คือมีฝาเปิดด้านบนเพื่อใส่เสื้อผ้า ขนาดของเครื่องซักผ้าถังเดียวมีให้เหลือหลายขนาดตามความจุของถังซัก โดยจุดเด่นคือ ความเร็วในการซัก โดยค่าเฉลี่ยเวลาของเครื่องซักผ้าประเภทนี้อยู่ที่ 30-90 นาที เท่านั้น
เครื่องซักแบบถังเดียวเหมาะสำหรับคนที่เสื้อผ้าไม่สกปรกมากนัก และต้องการความรวดเร็วในการซัก อย่างพนักงานบริษัทและนักศึกษา อีกทั้งขนาดของเครื่องที่ไม่ใหญ่เกินไปสามารถตั้งไว้ภายในคอนโดหรือหอพักได้โดยไม่ใช้พื้นที่จำนวนมาก
2.ความจุเครื่องซักผ้า
ในการเลือกเครื่องซักผ้าความจุเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ โดยความจุของเครื่องซักผ้าสัมพันธ์กับขนาดของเครื่อง ยิ่งเครื่องซักผ้าที่มีความจุมากยิ่งสามารถซักผ้าจำนวนเยอะขึ้น สำหรับความจุเครื่องซักผ้าที่พบส่วนใหญ่มีดังนี้
ความจุขนาด 5-7 กิโล สามารถซักเสื้อผ้าได้25-30 ชิ้น
ความจุขนาด 7-9 กิโล สามารถซักเสื้อผ้าได้ 6-45 ชิ้น
ความจุขนาด 9-11 กิโล สามารถซักเสื้อผ้าได้ 46-65 ชิ้น
ความจุขนาด 11 กิโล ขึ้นไป สามารถซักเสื้อผ้าได้จำนวน 56 ชิ้น ขึ้นไป
ทั้งนี้การคำนวณของจำนวนของเสื้อผ้าที่สามารถซักได้ อาจะแปรผันไปขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผ้าที่ซัก ซึ่งผ้าแต่ละชนิดก็มีน้ำหนักแตกต่างกันออกไป เช่น
เสื้อเชิ้ตมีน้ำหนัก 200-300 กรัม
กางเกงขาสั้นมีน้ำหนัก 200-350 กรัม
กางเกงยีนส์มีน้ำหนัก 600-800 กรัม
สุดท้ายนี้การเลือกความจุของเครื่องซัก นอกเหนือจากปริมาณของผ้าในการซักแล้ว ขนาดของพื้นที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึง เพราะยิ่งความจุมากพื้นที่ที่ใช้วางเครื่องซักผ้าก็มากตามไปด้วย ดังนั้นก่อนเลือกความจุควรวัดขนาดของเครื่องซักผ้าให้พอดีกับพื้นที่ติดตั้ง
3.รอบปั่นหมาด (RPM)
รอบปั่นหมาด คือ จำนวนรอบการหมุนต่อนาที ในการปั่นผ้าให้แห้ง ยิ่งมีจำนวนรอบมากเท่าไรยิ่งแห้งเร็วมากขึ้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้การพิจารณาเครื่องซักผ้าจากรอบปั่นหมาด ควรเลือกเครื่องที่มีรอบปั่นพอดีกับเนื้อผ้า เช่น เนื้อผ้าที่มีรอบปั่นมาก เมื่อใช้ซักผ้าบาง อาจทำให้ผ้าฉีกขาด โดยรอบปั่นหมาดทั่วไปจะอยู่ที่ 500-700 รอบ ถือเป็นรอบปั่นมาตรฐานที่ไม่น้อยหรือมากจนเกินไป
4.ฟังก์ชั่นของเครื่องซักผ้า
ฟังก์ชั่นของเครื่องซักผ้าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกเครื่องซักผ้า โดยฟังก์ชั่นเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซักให้ดียิ่งขึ้น โดยฟังก์ที่พบในเครื่องซักผ้ามีดังนี้
ฟังก์ชั่นแช่ผ้าก่อนซัก (Soak) สำหรับผ้าที่สกปรกมาก
ฟังก์ชั่นหน่วงเวลาการซัก Delay End
Hygine Tub Clean Course ทำความสะอาดถังซัก เพียงกดปุ่ม Tub Clean เครื่องซักจะกำจัดคราบสกปรก และผงซักฟอกตกค้างที่ฝังอยู่ในถังซักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ระบบคลายผ้าหลังจากปั่นหมาด
ฟังก์ชั่น Color Alive ให้ผ้ามีสีสันสดใสยาวนานขึ้น ลดปัญหาสีผ้าตก และลดการเสียรูปของผ้า
ฟังก์ชั่น Fuzzy Control เซ็นเชอร์ตรวจจับปริมาณเสื้อผ้าและเนื้อผ้าอัตโนมัติ (ตรวจจับสิ่งสกปรก)
Autodose ปล่อยน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มโดยอัตโนมัติ
Connectivity เชื่อมต่อควบคุมการทำงานผ่าน Application
ทั้งนี้ฟังก์ชั่นของเครื่องซักผ้าไม่มีอยู่ในทุกเครื่อง ดังนั้นจึงต้องเลือกว่าฟังก์ชั่นไหนที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น คนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เสื้อผ้าที่ใส่จะมีสิ่งสกปรกจากคาบเหงื่อไคล้ ควรเลือกเครื่องซักผ้าที่มีฟังก์ชั่นแช่ผ้าก่อนซัก (Soak) เพื่อขจัดสิ่งสกปรกลงไปในน้ำก่อนซัก เป็นต้น
5.งบประมาณ
งบประมาณเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกเครื่องซักผ้าที่คุณภาพดีและเหมาะกับบ้านของคุณ เพราะเครื่องซักผ้าแต่ละประเภทมีราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความจุ, ฟังกชั่นการใช้งานและความสามารถในการทำความสะอาด โดยราคาของเครื่องซักผ้าแต่ละประเภท